5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ฮิตสำหรับคนอยากปลดหนี้ มีลูกยาก อยากมีงานมั่นคง เผยทุกช่วงเวลามีคนแห่บนบานศาลกล่าวต่อเนื่อง ชี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและผู้ไปพึ่งส่วนใหญ่จะสมหวัง ขณะที่การแก้บนก็ยังทำได้ง่าย ประหยัดเงิน และประหยัดเวลาด้วย
การบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์มีอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานจนไม่สามารถระบุได้ว่าพิธีกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยใด แต่เชื่อกันว่ามีตั้งแต่เรามีการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นสิ่งที่ปฏิบัติตามๆ กันมา เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อยอดนิยมที่ไม่ฮือฮาแต่กลับซึมลึกอยู่ในจิตใจคนไทยเกือบทุกคน
อยากปลดหนี้ต้องขอ
พระเจ้าตาก -หลวงพ่อโต
อาจารย์อันติกา อริยชวัล ธูปพยากรณ์ หนึ่งเดียวในโลก ผู้เริ่มรวบรวมการบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกว่า บนบานศาลกล่าวหรือการไปขอในสิ่งที่ตนต้องการนั้นจะต้องเลือกสถานที่ที่สามารถบันดาลความสำเร็จให้เราได้ ซึ่งนั่นต้องอาศัยความเชื่อ ความศรัทธาจากรุ่นสู่รุ่น กล่าวคือคนที่เคยไป 'บน'หรือ 'ขอ'นั้นเมื่อประสบผลสำเร็จมักจะนำมาเล่าต่อๆกันไปทำให้เกิดความเชื่อในเรื่องนั้นๆเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนาน
สำหรับการ 'บน'หรือ 'ขอ'เพื่อให้หลุดจากภาระหนี้สินนั้นดูเหมือนเพิ่งจะได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 เพราะในช่วงนั้นคนในประเทศส่วนใหญ่เกิดภาวะการเป็นหนี้เป็นสินมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่พวกเขาหันไปพึ่งพาเพื่อให้พาชีวิตครอบครัวอยู่รอดคือการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ซึ่งคนที่ไปบนบานที่นั่นเชื่อว่าท่านจะสามารถช่วยเหลือในเรื่องของหนี้สินได้เพราะในอดีตนั้นเคยเป็นหนี้เป็นสินประเทศจีนจึงทำให้พระองค์เข้าใจหัวอกของคนเป็นหนี้นั่นเอง
นอกจากนี้ผู้ไปบนบานยังสามารถขอให้ท่านช่วยเรื่อง ค้าขาย การเรียน การงาน อีกด้วย สำหรับวิธีบนนั้นจะต้องใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดาวเรือง มาลัยมะลิ และหลังจากสำเร็จแล้วต้องการจะแก้บนจะต้องแก้บนตามคำกล่าวที่เคยขอท่านไว้หรือโดยการนำอาหารคาว หวาน มาถวายท่าน
นอกเหนือจากสมเด็จพระเจ้าตากสินแล้ว คนที่มีหนี้มีสินสามารถไปบนบานได้ที่ 'หลวงพ่อโต' วัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อโตนั้นได้รับการกล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบางพลีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มานานกว่า 200 ปี แล้ว และคนส่วนใหญ่เชื่อว่าหลวงพ่อโตมีอิทธิฤทธิ์มากมาย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เจ็บป่วยทั้งหลายที่มาบอกเล่าบนบานกราบนมัสการท่าน บางท่านได้นำน้ำมนต์หลวงพ่อไปเพื่อความเป็นสิริมงคล ปรากฏว่าโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นนั้นหายวันหายคืน
แม้แต่กระทั่งรูปเหรียญหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ชาวบ้านทั้งใกล้ไกลต่างพากันห้อยคอให้แก่บุตรหลานของตน เพราะเมื่อเด็กเผลอพลัดตกน้ำเด็กนั้นกลับลอยได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ ตลอดทั้งพระเครื่องรางที่ทำเป็นรูปขององค์หลวงพ่อก็มีอภินิหารป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้
สำหรับคนในพื้นที่ตำบลบางพลีส่วนใหญ่กลับเชื่อว่าหลวงพ่อโตสามารถช่วยปลดภาระหนี้สินได้ โดยผู้ไปบนบานจะต้องทำ 'สัญญา'เช่นหากเป็นหนี้จากการพนันก็สัญญาว่าจะไม่เล่นไปอีกตลอดชีวิต หรือหากเป็นหนี้จากการค้าขายจะต้องสัญญาว่าจะค้าขายด้วยความสุจริต มีความเป็นธรรม โดยผู้บนบานจะต้องใช้แผ่นทองคำเปลวไปติดไว้ที่ฝ่าเท้าของหลวงพ่อโตและขอตามที่ตนต้องการแต่ผู้ขอนั้นจะต้องรักษาคำมั่นสัญญาให้ได้ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุร้ายแก่ตัวเองได้ ที่สำคัญหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วไปสามารถใช้อะไรก็ได้มาบนบาน เมื่อสำเร็จแล้วผู้บนจะนำอะไรมาถวายก็ไม่เกี่ยงแต่สิ่งที่ผู้บนบานไม่ควรจะทำเลยคือ 'การลืม'คำบนบานศาลกล่าวอย่างเด็ดขาด
อยากมีลูกไปขอ
หลวงพ่อโสธร - เจ้าพ่อเสือ
ส่วนกลุ่มคนที่แต่งงานมานานแต่ไม่มีทายาทสืบสกุล การพึ่งพาสิ่งศักดิสิทธิ์ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่พวกเขาเหล่านั้นเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดความสมหวัง โดยสถานที่ศักดิสิทธิ์ อันดับแรกๆที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าช่วยได้จริงคือการบนบานกับหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนมากมายชาวบ้านที่มากราบไหว้มักจะศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร เมื่อพูดถึงการบนบานสานกล่าวแล้ว ร้อยคนก็ร้อยอย่าง แต่สิ่งที่คนมาบนบานกับหลวงพ่อมากที่สุดคือ การขอลูก ซึ่งผู้ขอนั้นจะต้องเตือนตัวเองไว้ด้วยว่า ถ้าขอลูกกับหลวงพ่อแล้วต้องขอให้พ่อแม่ตีเด้กได้ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อมีเด็กมาเกิดแล้วถึงเวลาเขาซนแล้วไปตีเขา ลูกจะป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ร่ำลือของคนอย่างมาก
นอกจากขอเรื่องลุกแล้ว ผู้บนบานสามารถขอพรจากหลวงพ่อได้อย่างหลากหลาย เช่น การขอให้สอบเข้าเรียนต่อได้ บางคนขอให้แก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะสมปรารถนากันแทบทุกรายแต่สิ่งที่ผู้มีความศรัทธาไม่ควรจะมาขอกับหลวงพ่อโสธรคือการขอไม่ให้ลูกถุกเกณฑ์ทหาร เพราะหลวงพ่อท่านไม่เคยให้ และก็ไม่มีใครสมหวังสักรายเดียว คุณรู้ไหมว่าอะไร สิ่ง เดียวที่หลวงพ่อท่านไม่เคยให้เลยก็คือ การขอให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหารนั่นเอง
การบนบานกับหลวงพ่อโสธรนั้นคนส่วนใหญ่จะบนบานด้วยของสองสิ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลวงพ่อท่านชอบมาก คือการแก้บนด้วยไข่ไก่ต้ม หลายคนบอกว่าวิธีนี้ดีมากเพราะหลวงพ่อชอบกินไข่ต้มโดยคนที่มาไหว้บนบานขอพร โดยเฉพาะขอลูก ขอโชคลาภ การงาน มักจะสมหวังและแก้บนด้วยไข่ต้ม ซึ่งคนเก่าแก่ในพื้นที่บอกว่าการแก้บนด้วยไข่ต้มนั้นเป็นเพราะไข่ต้มเป็นของพื้นๆที่หาได้ง่ายในยุคแรกๆของวัดโสธร เลยนิยมใช้ไข่ต้มเป็นเครื่องแก้บน อีกทั้งผู้บนบานยังนิยมถวายพวงมาลัย และนางรำละครชาตรี หรือลิเก ซึ่งปัจจุบันทางวัดหลวงพ่อโสธรก็มีไว้บริการอยู่แล้ว
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯที่แต่งงานมานานแต่ยังไม่มีลูก ต้องการที่จะไปขอพรจากสิ่งศักดิสิทธิ์ใกล้บ้านก็สามารถเดินทางไปยังศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่ใกล้ๆถนนตะนาว เสาชิงช้า ที่นี่เป็นที่เรื่องลือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แบบไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะคนที่มีบุตรยาก โดยครอบครัวชาวจีนในเมืองไทยเชื่อว่าการไปขอลูกที่ 'ตั่วเล่าเอี๊ย' หรือศาลเจ้าพ่อเสือในคืนวันที่ 15 ค่ำ เดือน 1 (ตามปฏิทินจีน) ชาวจีนเรียกพิธีนี้ว่า 'จับโหงวแม้' (แปลว่า 'คืนวันที่ 15 ค่ำ') โดยนำ 'ทึ้งถะ' หรือเจดีย์ที่ทำด้วยน้ำตาลไปไหว้ คนที่อยากมีลูกแล้วไปขอ ท่านแนะนำว่า ต้องให้ฝ่ายชายไปไหว้แล้วขโมย 'ทึ้งไซ' หรือสิงโตที่ทำด้วยน้ำตาลกลับมาบูชาที่บ้าน เมื่อได้ลูกสมปรารถนาแล้วปีหน้าหรือปีถัดไปต้องเอาสิงโตที่ทำด้วยน้ำตาลไปไหว้ใช้คืนสองเท่า หรือสองตัวนั่นเอง ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ส่วนใหญ่จะสมหวัง
นอกจากนี้ผู้มีจิตศรัทธาต่อศาลเจ้าพ่อเสือ ยังสามารถบนบาน เรื่อง การค้าขาย เสริมวาสนาบารมีได้ด้วย โดยมีวิธีการบนคือ จุดธูป 12 นำดอกดาวเรืองไหว้ทั้ง 4 หน้าขององค์ และเมื่อสมหวังแล้วสามารถแก้บนโดยให้แก้คำที่เคยกล่าวขอมาแล้ว
ส่วนผู้ที่ไม่ขอลูก สามารถไหว้ขอพรทั่วไปได้โดยด้วยการจุด ธูป 18 ดอก เทียน 1 คู่ หมู 1 จาน พวงมาลัย 1 พวง เเละกระดาษเงินกระดาษทอง ส่วนผู้ที่คิดว่าตัวเองอยู่ใน 'ปีชง'และต้องการสะเดาะเคราะห์ ของไหว้จะเหมือนกับชุดขอพรเเต่จะเพิ่มดอกบัวทอง ส้ม น้ำมัน ขนมถ้วยฟู หมากพลู เป็นต้น
โชคลาภ - ความมั่นคงที่
ศาล 'เสด็จเตี่ย'
ถ้านับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยมมานานและมีผู้ศรัทธาล้นหลามโดยดูจากการสร้างศาลทั่วประเทศ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพศรัทธาของประชาชนแล้ว 'เสด็จเตี่ย'หรือพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นอีกท่านหนึ่งที่เชื่อกันว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งผู้ที่เคารพศรัทธาในตัวท่านสามารถไป 'ขอพร'ได้โดยไม่ต้องบนบานเพราะท่านมักจะให้พรกับผู้ศรัทธาในพระองค์ท่านโดยส่วนใหญ่ผู้คนมักจะไปขอ ความมั่นคงในการงาน ขอโชคลาภและขอให้หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
โดยสิ่งที่จะนำไปเพื่อขอพรจากท่านประกอบด้วย ธูป 19 ดอก ดอกกุหลาบสีแดง หรือสีชมพู (ไม่ควรผสมสี) พวงมาลัยดอกมะลิ หรือ ดอกเขี้ยวกระแต จากนั้นก็ตั้งจิตขอพรจากท่าน แต่หากใครที่มีความประสงค์จะบนบานก็สามารถทำได้โดยการบนบานด้วยประทัดที่จุดแล้วเสียงดัง เพราะพระองค์ท่านโปรดปรานเสียงปืนใหญ่ หรืออาจจะเป็นอาหารคาว หวาน วิสกี้ น้ำตาลเมา หรือ 'ไอ้เป้' ซึ่งเป็นสุราพื้นบ้านเป็นที่โปรดปรานของพระองค์มาก
'การบนบานเกิดจากการตั้งจิตอธิฐานต่อหน้าสิ่งที่คนเคารพนับถือเพราะมนุษย์ทุกคนมีจิตวิญญาณที่สามารถจะทำสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้ การบน การขอ ต่อวัตถุที่ทรงพลังจึงสามารถบันดาลความต้องการให้ผู้ขอได้ซึ่งเรื่องนี้คนไทยทุกคนรู้และยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้'อาจารย์อันติกากล่าวในที่สุด |