สถิติ
เปิดเมื่อ20/12/2015
อัพเดท20/03/2016
ผู้เข้าชม45701
แสดงหน้า49500
ปฎิทิน
July 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
  


ข่าวสาร

ข่าวทั่วไป

แพทย์ชี้'ยาจีน'ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งแพร่กระจาย บรรเทาผลข้างเคียง - ฟื้นฟูผู้ป่วยซึมเศร้าได้ชะงัก

 
แพทย์ชี้'ยาจีน'ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งแพร่กระจาย บรรเทาผลข้างเคียง - ฟื้นฟูผู้ป่วยซึมเศร้าได้ชะงัก
        แพทย์จีนชี้ 50% ของผู้ป่วยมะเร็งระยะแรกที่รักษาหายแล้วภายใน 5 ปีสามารถเกิดโรคซ้ำ และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ แนะยาจีนช่วยฟื้นฟูสุขภาพและป้องกันการกำเริบ บรรเทาผลข้างเคียงและความเจ็บปวดจากการรักษาแผนหลัก พร้อมช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยท้อแท้มีอาการซึมเศร้า
       
       ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของประชากรทั่วโลก และมีข้อมูลที่น่าตกใจว่าช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2005-2015 หากไม่กระทำการใดๆ จะมีประชากรเสียชีวิตจากโรคมะเร็งถึง 84 ล้านคนทั่วโลก แพทย์จีนเผย ยาจีนช่วยเสริมการรักษาแผนหลักจาก 3 ปัญหาใหญ่ได้ “ผลข้างเคียง-ดื้อยาเคมีบำบัด-การกำเริบซ้ำ”
       
       แพทย์จีน มาลิน ปิยะชินวรรณ เผยในการบรรยายเรื่อง 'ใช้ยาจีนอย่างไรเสริมการรักษามะเร็งให้ได้ผล' ซึ่งจัดโดยชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งว่า ยาจีนเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจมากในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากการรักษามะเร็งแผนหลักพบปัญหาใหญ่ 3 ประการ คือ
       
       1. ผลข้างเคียง
       
       2. เซลล์มะเร็งกำเริบซ้ำ ใช้ยาเดิมไม่ได้ผล และ
       
       3. ไม่สามารถทำลายเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้
       
       “ยาจีนสามารถเสริมการรักษามะเร็งได้ผล เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาของการรักษามะเร็งแผนหลัก และการแพทย์จีนเห็นว่า การแพร่กระจายหรือการเกิดซ้ำของโรคมะเร็งเป็นปัญหาจากระบบภูมิคุ้มกันเป็นหลัก จึงมีการใช้ยาจีนส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันไปพร้อมกันซึ่ง ยาจีนจะเห็นผลช้าแต่ผลข้างเคียงน้อยมาก ผู้ป่วยจึงต้องมีความตั้งใจจริง”
       
       ยาจีนช่วยป้องกันมะเร็งเกิดซ้ำ
       
       จุดเด่นของแพทย์แผนจีน คือ การรักษาโรคโดยเน้นให้ความสำคัญกับการปรับสภาพของร่างกาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการก่อให้เกิดโรค แนวความคิดแพทย์จีน ถือว่า มะเร็งเป็นโรคที่สภาวะและสภาพของร่างกายเป็นตัวก่อขึ้นมา ดังนั้น การรักษามะเร็งให้ได้ จึงไม่ใช่สนใจเฉพาะก้อนเนื้อร้ายเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับสภาพร่างกายทั้งหมด ถ้าไม่ปรับสภาพร่างกายทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและการกำเริบซ้ำได้
       
       แพทย์จีนมาลิน บอกอีกว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งแม้ว่าจะได้รับการรักษาจนหายแล้ว ก็มีโอกาสเกิดซ้ำได้อีก ตามสถิติโดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยมะเร็งมีการกำเริบซ้ำของโรคภายใน 5 ปี ถึงร้อยละ 50 และในจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่เกิดโรคซ้ำยังมีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 90 อีกด้วย นอกจากนั้น การกำเริบซ้ำครั้งที่ 2 มักพบว่ามีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะข้างเคียง ซึ่งเป็นสาเหตุของการคร่าชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็ง แต่หากสามารถป้องกันยับยั้งได้ หลังจาก 5 ปีไปแล้วอัตราส่วนที่จะกำเริบซ้ำมีน้อยมาก ดังนั้น การรักษามะเร็งที่สำคัญที่สุด คือการป้องกันการกำเริบซ้ำของโรค แต่สิ่งนี้มักถูกละเลยไปทั้งจากแพทย์และตัวผู้ป่วยเอง
       
       สาเหตุการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง คือ เซลล์มะเร็งเหนี่ยวนำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ (angiogenesis) เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปสู่เนื้อเยื่อใกล้เคียง และลุกลามไปสู่อวัยวะที่ไกลออกไป
       
       “ผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งระยะแรกมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ป้องกันหลังจากรักษาแล้ว
       
       เซลล์มะเร็งซึ่งมีขนาดก้อนเนื้อประมาณ 0.2 เซนติเมตร ซึ่งยากแก่การตรวจสอบเจอนั้น จะมีความสามารถในการสร้างเส้นเลือด (angiogenesis) เพื่อหล่อเลี้ยงตัวเอง และชักนำเซลล์มะเร็งไหลผ่านหลอดเลือดเล็ก ๆ กระจายไปสู่ส่วนอื่นของร่างกาย ดังนั้น มะเร็งระยะแรกแม้ว่าจะได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่เซลล์มะเร็งอาจไม่ถูกทำลายไป เพราะส่วนของเซลล์มะเร็งที่ยังคงมีอยู่อาจกระจายไปทางหลอดเลือดใหม่แล้ว และหลุดรอดจากการผ่าตัด เป็นเหตุให้เกิดการกำเริบซ้ำของมะเร็งได้”
       
       แพทย์จีนมาลินระบุว่า ยาจีนถูกนำใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพและการป้องกันเป็นหลัก เนื่องจากการรักษาด้วยยาจีนจะสามารถปรับสมดุลของ ยิน-หยาง ปรับสมดุลชี่เลือด อวัยวะจ้างฝู่ เส้นลมปราณ และเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยกลุ่มยาจีนเพื่อเสริมการรักษาโรคมะเร็ง ประกอบด้วย
       
       1. ตัวยาขับร้อนถอนพิษต้านมะเร็ง อาทิ ไป๋ฮวาเสอเสอเฉ่า ป้านจือเหลียน ชิงไต้
       
       2. ตัวยาสลายก้อนกระจายปมแข็ง อาทิ เทียนหนานชิง เชี่ยคูเฉ่า ห่ายจ่าว
       
       3. ตัวยากระจายเลือดคั่ง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อาทิ ชื่อเสา ตานเซิน เซื่อเชียง
       
       4. ตัวยาละลายเสมหะต้านมะเร็ง อาทิ ป้านเชี่ย จวี๋เกิง จื่อชูจื่อ
       
       5. ตัวยาขับน้ำ ระบาบความชื้น อาทิ ฝูหลิง จูหลิง เจ๋อชี
       
       6. ตัวยาเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงเลือดลม อาทิ โสมคน หลิงจือ หวงฉี 
 
แพทย์ชี้'ยาจีน'ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งแพร่กระจาย บรรเทาผลข้างเคียง - ฟื้นฟูผู้ป่วยซึมเศร้าได้ชะงัก
        นอกจากนั้นยังมีกลุ่มยาอื่นๆ เช่น กลุ่มยาระงับปวด ยาห้ามเลือด แล้วแต่ว่าผู้ป่วยแต่ละรายจะมีสภาวะร่างกายอย่างไร และการพัฒนาของโรคเน้นไปทางด้านใด
       
       วิธีการรักษามะเร็งของแพทย์จีนคือ การใช้ยาจีนประสานก่อนและหลังการผ่าตัด บรรเทาผลข้างเคียงจากรังสีรักษาและบรรเทาผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด
       
       “การใช้ยาจีนก่อนการผ่าตัดจะช่วยปรับสภาพร่างกายไม่ให้ทรุด เพราะยาจีนจะช่วยเตรียมพร้อมให้กับร่างกาย และทำให้ฟื้นเร็ว โดยเคยมีกรณีทดลองในโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งของประเทศจีนคือ เอาผู้ป่วยมะเร็ง 20 คน มาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ใช้ยาจีนก่อนการผ่าตัดสัก 2-3 สัปดาห์ อีกกลุ่มหนึ่งไม่ใช้อะไรเลย แล้วเข้าห้องผ่าตัด ผลจากการทดสอบพบว่า ระหว่างการผ่าตัด ผู้ป่วยในกลุ่มที่ใช้ยาจีนเสริมสุขภาพก่อนการผ่าตัดมีความดันปรกติ เลือดออกน้อย การผ่าตัดผ่านไปอย่างราบรื่น ความเจ็บปวดมีไม่มาก ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ยาจีนเลย จะเจ็บปวดมาก และมีเลือดออกมาก และแผลจากการผ่าตัดฟื้นฟูช้า แสดงให้เห็นว่า การใช้ยาจีนก่อนและหลังผ่าตัด หรือไม่ได้ใช้เลย มีผลต่างกันมาก”
       
       บรรเทาผลข้างเคียง 
       ลดเจ็บปวดชะงัด
       
       ยาจีนสามารถบรรเทาผลข้างเคียงจากรังสีรักษา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือด เกล็ดเลือดต่ำ นอกจากนั้น รังสีรักษาบริเวณใบหน้าและลำคอจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร เนื้อเยื่อช่องปาก ระหว่างรังสีรักษา ผู้ป่วยจึงควรได้รับยาจีนที่ช่วยเสริมพละกำลัง ปรับสมดุลม้ามและกระเพาะอาหาร และหลังรังสีรักษา ควรใช้ยาจีนเพื่อขับร้อนถอนพิษ รักษาพิษร้อนตกค้างในร่างกาย
       
       ส่วนผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ตัวยาเคมีบำบัดไม่ได้เจาะจงทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่ทำลายเซลล์ปรกติด้วย และก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายเป็นเวลานาน ทัศนะแพทย์จีนเห็นว่า เคมีบำบัดทำลายชี่เลือดเป็นหลัก ดังนั้น ต้องเสริมบำรุงชี่เลือด เสริมม้าม และกระเพาะอาหารให้ทำงานสมดุลกัน บำรุงตับและไต ถ้าใช้วิธีแก้ไขให้เหมาะสม ผลข้างเคียงต่างๆ จะค่อยๆ หายไป
       
       มีกรณีศึกษาผู้ป่วยชาย อายุ 80 ปี เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย ลุกลามกระดูกสะโพกกระดูกสันหลัง ผ่าตัดไม่ได้ ทำเคมีบำบัด 2-3 ครั้งทำต่อไม่ไหว เปลี่ยนเป็นยารับประทานแต่ผลข้างเคียงก็มาก ผู้ป่วยจึงปฏิเสธการรักษาแผนปัจจุบัน และทดลองใช้ยาจีนประมาณ 4-5 วัน เริ่มเจริญอาหาร หลังจากนั้น 7 วัน อาการปวดน้อยลง นอนหลับดี อาการคลื่นไส้หายไป คุณภาพชีวิตดีขึ้น เมื่อสุขภาพดีขึ้นจึงกลับไปให้ยาเคมีบำบัดอีก อาการไม่พึงประสงค์เดิมๆ จึงกลับมาอีก ผู้ป่วยจึงขอใช้ยาจีนอย่างเดียว และยาจีนช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตในระยะสุดท้ายด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ทรมานตลอด 2 เดือน
       
       ผู้ป่วยที่รับประทานยาจีนมีข้อห้ามเรื่องอาหารการกินเช่นกัน อาหารทุกอย่างมีคุณลักษณะเฉพาะตัว ส่งผลกระทบไม่มากก็น้อยต่อโรค ดังนั้น การใช้ยาจีนบางชนิดควรเลี่ยงอาหารบางอย่าง เพราะจะกระทบต่อประสิทธิภาพการรักษาหรืออาจเกิดบทบาทตรงข้ามกัน เช่น เพื่อให้ยาจีนใช้รักษาได้อย่างเห็นผล ควรงดเว้นอาหารย่อยยาก เช่น อาหารดิบ อาหารแช่เย็น อาหารมัน อาหารคาวจัดหรือมีรสจัด
       
       ผู้ป่วยซึมเศร้า 
       แผนจีนรักษาได้
       
       แพทย์จีนมาลิน บอกอีกว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนไม่น้อยที่มีอาการของโรคซึมเศร้า เพราะความหมดหวังท้อแท้ต่อการรักษา ซึ่งแพทย์แผนจีนสามารถช่วยนำมาเสริมการรักษาอาการซึมเศร้าได้เช่นกัน
       
       กระบวนการเกิดโรคซึมเศร้า เกิดจากภาวะอารมณ์และจิตใจที่ถูกกระทบ ทำให้พลังชี่เคลื่อนตัวไม่สะดวก พลังตับไม่เคลื่อน แล้วค่อยๆ ก่อให้เกิดความไม่สัมพันธ์กันของอวัยวยะตันทั้งห้า แต่จะมาจากอวัยวะหลัก 3 อย่างคือ ตับม้าม และหัวใจ เป็นสาคัญ และการเสียดุลยภาพของระบบชี่ (พลัง)และเลือด หลักการรักษาของแพทย์จีน คือขับเคลื่อนและเปิดทางให้พลังชี่ในระบบเคลื่อนตัวได้คล่อง แต่วิธีการรักษาทางคลินิกนั้น ต้องแยกแยะให้ถูกต้องว่าเป็นโรคลักษณะแบบพร่องหรือแบบแกร่ง
       
       ถ้าเป็นแบบแกร่ง อาการสำคัญ ได้แก่ อารมณ์ไม่สดชื่น วิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน ชอบถอนหายใจ เจ็บแน่นหน้าอก เรอ ท้องอืด ไม่เจริญอาหาร หากเป็นสตรีระบบประจำเดือนไม่ปรกติ บางรายจะมีอาการคอแห้งปากขม ท้องผูก หงุดหงิดโมโหง่าย ตาแดง หูอื้อ การรักษาต้องปรับสมดุลตับ ต้องขับเคลื่อนพลังตับให้หมุนเวียนสะดวกเป็นสิ่งสาคัญสุด โดยใช้ตำรับยาที่ขับเคลื่อนการหมุนเวียนเลือด ยาขับเสมหะ ขับชื้น ขจัดร้อน ยากลุ่มช่วยย่อยอาหาร
       
       ถ้าเป็นแบบพร่อง อาการสำคัญคือ มักจะเหม่อลอย จิตใจไม่สงบ โศรกเศร้ากลัดกลุ้ม ชอบร้องไห้ หรือหาวนอนบ่อย ย้ำคิดย้ำทำ ขี้ตกใจ นอนไม่หลับ หลงลืมง่าย อ่อนเพลีย เวียนศรีษะ ไม่เจริญอาหาร การรักษาต้องบำรุงชี่(พลัง) และเลือด ร่วมกับ กลุ่มยาเสริมม้าม หล่อเลี้ยงหัวใจ สงบจิตประสาท เป็นต้น
       
       นอกจากนั้น ยังมีวิธีการรักษาเสริมอื่นๆ เช่น การรำมวยไทเก๊ก หรือชี่กง และการฝังเข็ม เพื่อระบายชี่ตับ เสริมม้าม และสงบจิต เป็นต้น
       
       ภาพ : อินเทอร์เน็ต 
 

หลักของการ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ต่างๆ

อ่าน 291 ครั้ง
  การปล่อยนกปล่อยปลา หรือปล่อยสัตว์ อื่นๆ ทุกชนิดนั้น คำที่ใช้ในการพูดที่เหมาะสมที่สุด คือกา...
 
 

ดูเลขโทรศัพท์มือถือ

อ่าน 1598 ครั้ง
  วิธีการเลือกเบอร์โทรศัพท์ คำนวนณผลรวมของเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดและ...
 
 

ราหูกาลกิณีถล่มเศรษฐกิจ ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร ระหว่างวันที่ 17 - 23 มกราคม 2559

อ่าน 232 ครั้ง
แผนภูมิชีวิตสำหรับผู้ที่เกิดในวันต่างๆของราศีเมษ แผนภูมิชีวิตสำหรับผู้ที่เกิดในวันต่างๆของราศีพ...
 
 

5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดฮิต คนแห่ 'บน-ขอ'-สมหวังทุกเรื่อง!

อ่าน 365 ครั้ง
5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ฮิตสำหรับคนอยากปลดหนี้ มีลูกยาก อยากมีงานมั่นคง เผยทุกช่วงเวลามีคนแห่บนบานศาลกล...
 
 

พระประจำวันเกิด

อ่าน 1339 ครั้ง
เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิดคือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร ลักษณะพระพุทธรูป พระพุทธรูปอยู่ในพระ...